𝙷𝙴𝚈 𝙶𝚄𝚈𝚂! 𝚆𝙴𝙻𝙲𝙾𝙼𝙴 𝙱𝙰𝙲𝙺 𝚃𝙾 𝙼𝚈 𝙱𝙻𝙾𝙶♥
.
สวัสดีค่ะทุกคน
ลัคกี้นะคะ ♥
.
เพื่อนๆ รู้สึกกันใช่ไหมว่าช่วงนี้ อากาศร้อนขึ้นมากๆ จากปกติ
หน้าหนาวประเทศไทยก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว พอใกล้เข้าหน้าร้อน ก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไป
จากที่ร้อนอยู่แล้ว กลายเป็น ร้อน! มากกกก!!
ร้อนอย่างเดียวก็จะไม่ว่าอะไรหรอกนะคะ เพราะทางเราเป็นสาวผิวแทน และเลิฟแดดมากกกก แต่สิ่งที่ไม่เลิฟเลยก็คิด ความมันบนผิวหน้า ใครเป็นกันบ้างคะ ช่วงอากาศหนาว ผิวจะแห้งมากๆ พอหน้าร้อน ผิวมันมากกกกก ไม่มีความพอดีเลย TT
สิ่งที่ตามมาหลังจากผิวมันมากๆ นั่นก็คือเกิดการอุดตันของน้ำมันที่ผลิตออกมา
จนเกิดสิ่งที่เป็นปัญหาผิวของสาวๆ นั่นก็คือ 'สิว' นั่นเองค่ะ
ลัคกี้เป็นคนนึงที่มีปัญหาสิวมานานมาก อยากจะบอกเลยว่าสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับคนเป็นสิว
ไม่ใช่การใช้สกินแคร์ที่ไม่ดี สกินแคร์ที่ราคาถูกเสมอไป แต่เกิดจากการใช้สกินแคร์ที่
ไม่เหมาะกับสภาพผิว และการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนประกอบเป็นสารที่อันตราย และเสี่ยงอุดตัน
เพราะฉะนั้น วันนี้ลัคกี้ขอมาแชร์เคล็ดลับ และสกินแคร์ดีๆ ที่เหมาะกับคนอยากจะดูแลผิวบ้าง รับรองว่าเป็นสกินแคร์ที่เหมาะกับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ และราคาเอื้อมถึงด้วยค่ะ ♥
♥𝐵𝐾♥
นี่ค่ะ สกินแคร์ที่เราจะรีวิวในวันนี้ เยอะหน่อยนะ แต่อยากให้เห็นทุกอย่างที่ใช้จริงๆ
ขอรีวิวทีละตัว เรียงลำดับตามการใช้งานของเราเลยนะค้า ♥
𝘿𝘼𝙔🌈
𝑭𝑰𝑹𝑺𝑻 𝑺𝑻𝑬𝑷 : 𝑩𝑲 𝑺𝒆𝒓𝒖𝒎 𝒃𝒓𝒊𝒈𝒉𝒕𝒆𝒏𝒊𝒏𝒈
สเตปแรกของการบำรุงผิว คือการทาเซรั่ม เพราะมีเนื้อบางเบา สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ก่อน ทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวต่อๆ ไปสามารถซึมสู่ผิวได้ดีขึ้นค่ะ ♥
BK Brightening มีความชุ่มชื้นในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับ 'คนผิวมัน'
เพราะเนื้อเซรั่มสามารถซึมซาบเข้าสู้ผิวได้เร็ว หรือใครที่ไม่ชอบทาครีมเนื้อหนักๆ เพราะไม่ชอบให้หน้ามัน ก็สามารถใช้ได้ ตัวนี้เขาเคลมเลยว่าคุมมันได้จริงถึง 12 ชั่วโมง ระหว่างวันที่เราต้องไปเผชิญกับปัญหาฝุ่นควัน ความร้อนต่างๆ ก็ไม่ทำให้สิวขึ้น เพราะเขาเป็น Anti-Pollution ซึ่งเป็นจุดเด่นของเขามากๆ เราใช้ตัวนี้มาไม่เคยมีปัญหาสิวผดเล็กๆ จากการโดนฝุ่นควันหรือมลภาวะเลย เราชอบตรงนี้ ชอบที่คำเคลมเป็นจริง ไม่ได้พูดเวอร์เกินไป นอกจากนี้เขายังทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วยนะ สรรพคุณครบมากบอกเลย
สำคัญคือ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ไม่มีพาราเบน ไม่มีสเตียรอยด์ และไม่มีน้ำหอมด้วยค่ะ
และเนื่องจากเราไม่ใช่คนผิวแพ้ง่าย เลยไม่แน่ใจว่าสามารถใช้กับคนผิวแพ้ง่ายได้หรือเปล่า แต่อยากจะแนะนำตรงนี้ คือแม้เราจะไม่ใช่คนผิวแพ้ง่าย แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารอันตราย ทำให้ปัญหาผิวสะสมนะคะ แนะนำให้หลีกเลี่ยงได้ก็จะดีค่ะ ♥
*ตัวนี้เป็น FAVORITE ประจำปี 2019 ของเราเลยนะคะ แนะนำสุดๆ*
ราคาเพียง 49฿
หาซื้อได้ที่เซเว่นทุกสาขา โซนครีมซองเลยค่ะ
𝑺𝑻𝑬𝑷 𝟐 : 𝑩𝑲 𝑬𝒙𝒑𝒆𝒓𝒕 𝒃𝒓𝒊𝒈𝒉𝒕
ขั้นตอนต่อมา คือการลงครีมบำรุง หลายคนอาจสงสัยว่า เซรั่มกับครีม ต่างกันยังไง?
วิธีดูง่ายๆ คือเนื้อสัมผัสค่ะ ว่าต่างกันอย่างไร ตัวเซรั่มจะเป็นน้ำๆ ส่วนครีม ก็จะเป็นเนื้อที่เรารู้จักกันดี จะมีความข้นและหนืดกว่าเซรั่ม ควรลงเป็นลำดับถัดมาค่ะ ถ้าใครใช้เซรั่มหลายตัว ก็ต้องเรียงลำดับให้ดีค่ะ ลงตัวที่เบากว่า ซึมเร็วกว่าก่อน แล้วค่อยตามด้วยตัวที่หนักกว่า แล้วค่อยลงครีมนะคะ
ส่วนตัวเราใช้แค่เซรั่มของBK ก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะอากาศร้อนจะทำให้ผิวผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก
ยิ่งทาครีมเยอะ ก็ยิ่งผิวมันค่ะ
ตัวนี้เราแนะนำสำหรับคนที่นอกจากจะมีปัญหาสิวแล้ว ก็รอยสิวหายช้า เช่นเราเป็นต้นค่ะ
เรารอยสิวหายช้ามาก เวลามีสิวครั้งนึง ก็กว่าจะแผลสมาน นานมากๆ ยิ่งรอยดำจากสิว ใช้เวลาเป็นเดือนสองเดือนก็ไม่หายค่ะ
เราใช้ตัวนี้มาตั้งแต่เขาออกใหม่ๆ เลย ตั้งแต่ใช้มาก็ไม่เคยหยุดใช้เลยค่ะ ผิวเราดีขึ้นมากๆ จนจำไม่ได้เลยว่าเคยมีรอยสิว ช่วงที่เรามีรอยสิวหนักๆ คือตอนเป็นอีสุกอีใสค่ะ เราคิดว่ารอยสิวคงจะหายยาก สรุปคือตอนนี้หน้าเราใสปิ๊งเลย ไม่มีรอยสิวแม้แต่นิดดดเดียว เป็นอานุภาพจากตัวนี้จริงๆ ค่ะ ยอมรับเลย
เราอยากแนะนำว่าให้เวลาน้องเขาสัก 1-2 สัปดาห์ ก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงนะคะ
ตัวนี้ก็ไม่มีสารอันตรายเช่นกันค่ะ เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย และยังมีสารสกัดที่คุณภาพสูง นวัตกรรมจากญี่ปุ่นเลยค่ะ
ราคา 49฿ ♥
หาซื้อได้ที่เซเว่นทุกสาขา โซนครีมซองเลยค่ะ
𝙎𝙏𝙀𝙋 𝟯 : 𝘽𝙆 𝘼𝙘𝙣𝙚 𝘽𝘽 𝙨𝙪𝙣𝙨𝙘𝙧𝙚𝙚𝙣 𝙎𝙋𝙁 𝟱𝟬+ 𝙋𝘼+++
ต่อมาก็เป็นขั้นตอนของการแต่งหน้าหน่อยๆ แล้วค่ะ จริงๆ สกินแคร์เราลงสองตัวบนก็จบเลย
ใครไม่ได้แต่งหน้า ก็แนะนำว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะ
ตัวนี้เป็น BB ตัวดังของ BK เป็นตัวเดียวที่เราเคยเห็นว่ารักษาสิวได้ด้วย
หมายถึงว่า แม้เราเป็นสิวก็สามารถแต่งหน้าได้ แถมยังมีสารสกัดที่ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นด้วยค่ะ
และตัวนี้ก็มีกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูง ถึง SPF 50+ PA+++ ถ้าใครไม่ได้ใช้ BB ตัวนี้ ก็ต้องลงกันแดดตัวอื่นตามด้วยนะคะ เพราะการที่เราโดนแสงแดดเป็นเวลานาน นอกจากจำทำให้ผิวคล้ำ ผิวไหม้แล้ว ยังทำให้เกิดรอยสิวด้วยค่า
ตัวนี้เราชอบใช้ในวันสบายๆ ไม่ต้องการการปกปิดระดับแน่นเป๊ะ และวันไหนเป็นสิวด้วยก็จะหยิบตัวนี้อย่างไวเลย ตัวนี้เนี่ยไม่มีซิลิโคนนะ ดังนั้นก็หมดปัญหาการอุดตันเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ติดทน ค่อนข้างทนเลย โดยเฉพาะถ้าใครเซตแป้งฝุ่นของ BK ด้วย ก็จะแมทขึ้น และติดทนมากขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ยัง Anti-pollution ด้วยนะคะ ใครที่ต้องออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ต่อก็ต้องชอบสรรพคุณอันนี้ของเขามากๆ แน่ๆ เราแนะนำมากๆ เลยค่ะ
วิธีการลง BB ก็สามารถลงได้ด้วยการใช้นิ้วค่อยๆ เกลี่ย หรือใครมีพัฟก็ใช้ได้ค่ะ ส่วนตัวเราชอบใช้กับนิ้วมากกว่า ง่ายดี และก็ยังเนียนด้วยค่ะ
♥
ราคา 49฿ ♥
หาซื้อได้ที่เซเว่นทุกสาขา โซนครีมซองเลยค่ะ
จบแล้วสำหรับการบำรุงผิวตอนกลางวันค่ะ
ต่อมาในช่วงกลางคืนบ้างนะคะ
𝑵𝑰𝑮𝑯𝑻 🌙
เนื่องจากช่วงกลางวันเราได้ลง BB และต้องออกไปเจอกับฝุ่น มลภาวะมากมาย
เลยต้องทำความสะอาดหน้าด้วยคลีนซิ่งก่อนนะคะ เป็นตัวไหนก็ได้ที่ทุกคนมีเลยค่ะ
จากนั้นก็มาใช้ตัวนี้เลย 𝑩𝑲 𝑨𝒄𝒏𝒆 𝒎𝒂𝒔𝒌
ตัวนี้เป็นมาสก์รักษาสิวโดยเฉพาะ เราใช้หลังจากเช็ดเครื่องสำอางออกจนหมดแล้ว
วิธีใช้ก็ง่ายๆ เพียงแค่มาสก์ทั่วหน้า หรือบริเวณ T-Zone เพื่อขจัดความมันบนผิว และปัญหาสิ่งสกปรกที่อุดตันบริเวณรูขุมขน มีส่วนผสมจาก Tea tree oil ที่โด่งดัง และ Centella asiatica หรือใบบัวบกที่ทุกคนรู้จักกัน ถ้าใครไม่รู้มาก่อนนะคะ ใบบัวบกเป็นพืชที่นำมาใช้ในสกินแคร์เยอะมาก มีสรรพคุณช่วยเกี่ยวกับสิวได้ดีมาก รักษาทั้งแผลสด และแผลผ่าตัด เป็นส่วนผสมที่พรีเมี่ยมมากๆ
ตัวนี้สามารถรักษาสิวได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะมีปัญหาสิวอะไรก็หยิบนางขึ้นมาแต้มได้เลย
เราใช้ตัวนี้เป็นประจำ ไม่ได้ใช้ทุกวันนะ แต่เป็นประจำคือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือใครไม่ค่อยมีเวลา ก็ใช้สัปดาห์ละครั้งก็ได้ ซองนึงสามารถแบ่งได้ใช้ 2 ครั้งเชียวนะ
ตัวนี้เราชอบมากๆ ทาแล้วมีกลิ่นเย็นๆ มิ้นต์ๆ
สักพักก็จะเริ่มแห้งใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ล้างออกได้ค่ะ
ถ้าใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวเรามีความมันน้อยลง แต่ต้องอาศัยความอดทนมากๆ
และหมั่นทาครีมบำรุงเป็นประจำนะคะ
ตัวนี้ราคา 49฿
สามารถซื้อได้ที่ เซเว่นทุกสาขา บริเวณโซนครีมซองค่า
หลังจากมาสก์เป็นตัว BK Acne mask แล้ว
ก็ตามด้วย BK Serum brightening และ BK Expert bright
เป็นการจบการลงสกินแคร์ในช่วงเวลากลางคืนค่ะ ☁️
แนะนำเพิ่มเติมนะคะ
สิ่งสำคัญของการดูแลผิวคือ 'ความสม่ำเสมอ' ท่องไว้ให้ดีนะคะทุกคน
* คู่หู เซรั่ม+ครีม ที่แนะนำมากกกกกก *
สองตัวนี้ เราแนะนำทุกคนที่ถามเลย ใครอยากบำรุงให้ผิวดีขึ้น
มีน้ำมีนวล อยากให้ผิวแข็งแรง เราจะให้เริ่มบำรุงจากสองตัวนี้เลย ♥
เราใช้มาทั้งแบบหลอด และซองเลย ขาดไม่ได้จริงๆ เวลาผิวพังทีไร
คิดว่าใช้อะไรก็ไม่รอด ก็กลับมาหานางตลอด โอ้ยยย มันรัก แง
*เราขอเพิ่มเติม ในส่วนของเนื้อสัมผัสของแต่ละตัวให้นะคะ*
จะเห็นว่า เซรั่มจะมีความใส และเป็นน้ำมากกว่าตัวครีม ถ้าใครใช้สกินแคร์เยอะกว่านี้
ก็ต้องศึกษาเนื้อสัมผัสของเขาดีๆ เรียงลำดับการลงสกินแคร์ให้ถูกต้องนะคะ
การทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการอุดตันด้วยค่ะ ♥
💛💛💛
ในส่วนของเรื่องราวที่มาแนะนำทุกคน ทั้งไอเทมที่แนะนำในการรักษาผิว
และการลงสกินแคร์ต่างๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ
ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถทักมาขอคำปรึกษาได้เลยนะคะ
ในทวิตเตอร์ @luckyseyo ลัคกี้สแตนบายรอทุกคนตรงนี้เสมอค่า ♥
ถ้าเพื่อนๆ ชอบให้เรารีวิวยาวๆ แบบนี้อีก ก็ฟีดแบคกันมาน้า เผื่อจะได้ทำเยอะขึ้นค่ะ
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่ะ
รักน้า ♥
0 ความคิดเห็น